วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วิธีในการสมัครใช้งาน Gmail จีเมลใหม่แบบละเอียดภาษาไทย

วิธีในการสมัครใช้งาน Gmail จีเมลใหม่แบบละเอียดภาษาไทย

  สมัยนี้ใครๆ ก็สมัครใช้ Gmail จีเมล เนื่องจากเป็นบริการเดียวกันกับเจ้าของ Google และยังเป็นบริการอีเมล์ที่สามารถจะนำไปใช้บริการในการสมัคร blogspots ได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าคุณไม่ควรพลาดที่จะลงทะเบียนเพื่อใช้งาน Gmail อย่างเด็ดขาด ส่วนใครที่ยังไม่เคยสมัครใช้งาน Gmail นั้นวันนี้เราก็มีขั้นตอนในการสมัคร Gmail ภาษาไทยแบบละเอียดมาฝากกัน
สมัคร gmail
วิธีลงทะเบียนสมัคร gmail
ขั้นตอนในการสมัครอีเมล์ Gmail จีเมล Google Mail
1.ให้คุณเข้าไปที่ www.gmail.com เพื่อเข้าไปสมัครใช้งาน Gmail นั่นเอง
2.ให้คุณสังเกตด้านบนสุดขวามือของเว็บไซต์คุณจะเห็นสี่เหลี่ยมสีแดงที่เขียนว่า สร้างบัญชี อยู่ให้คุณคลิกไปที่สี่เหลี่ยมสีแดงที่เขียนว่า สร้างบัญชีได้ทันที
ลงทะเบียนในการสมัคร gmail
3.หน้าต่อไปคุณจะเห็นด้านขวามือนั้นมีช่องสี่เหลี่ยมสีขาวให้คุณกรอกข้อมูลเยอะแยะไปหมดเลยมาเริ่มจากด้านบนก่อน ดังนี้
กรอกชื่อ และ นามสกุล ของคุณลงไปจริงๆ ไม่จำเป็นจะต้องกรอกชื่อ หรือ นามสกุล ของคุณจริงก็ได้สามารถใช้ชื่อที่ตั้งเอาเองก็ได้ในส่วนนี้แต่ชื่อที่ใช้นั้นต้องเป็นคนล่ะชื่อกับที่คุณจะตั้งเป็นชื่อ Gmail ของคุณ
ลงทะเบียนในการสมัคร gmail
เลือกชื่อผู้ใช้ ให้คุณตั้งชื่อที่คุณต้องการใช้เป็นชื่ออีเมล์แอดเดรส เช่น xxx@gmail.com นั่นเอง ตั้งแล้วต้องจำให้ได้นะเพราะเป็นชื่อที่จะต้องใช้เข้าสู่ระบบ Gmail ทุกครั้ง
สร้างรหัสผ่าน และ ยืนยันรหัสผ่าน ในช่องนี้ให้คุณตั้งรหัสผ่าน ด้วยตัวเลข หรือ ตัวอักษรก็ได้ซึ่งต้องมีความยาวไม่ต่ำกว่า 8 อักขระ ด้วยนั่นเอง และควรเป็นรหัสผ่านที่คุณคิดว่าจำได้ด้วยไม่เช่นนั้นถ้าลืมขึ้นมาแล้วคุณอาจจะเข้าใช้งานอีเมล์ของคุณไม่ได้นั่นเอง
วัน เดือน ปี ในส่วนนี้ให้คุณกรอก วัน เดือน ปี เกิดของคุณให้ถูกต้อง
ขั้นตอนต่อไป คือ การระบุเพศของคุณ ชาย หญิง หรือ อื่นๆ ในกรณีที่คุณเป็น ทอม กระเทยเกย์ เป็นต้นให้ระบุเลือกที่อื่นๆ
กรอกเบอร์มือถือจริงของคุณเนื่องจากมีประโยชน์ และ ปลอดภัยเป็นอย่างมากทาง Gmail จะส่งรหัสรักาความปลอดภัยให้คุณผ่านทาง SMS เบอร์มือถือที่คุณได้กรอกเอาไว้ในกรณีที่คุณเกิดลืมรหัสผ่านในการเข้าใช้งาน Gmail ของคุณนั่นเอง
ที่อยู่อีเมล์ปัจจุบันของคุณ ในส่วนนี้ถ้าคุณมีที่อยู่อีเมล์อื่นอยู่แล้วค่อยกรอกแต่ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกรอกปล่อยเว้นว่างเอาไว้ก็ได้
gmail3
พิสูจน์ว่าคุณไม่ได้เป็นหุ่นยนต์ แค่คุณกรอกเลข หรือ ตัวอักษรตามรูปภาพที่ขึ้นอยู่ในช่องสี่เหลี่ยมสีขาวด้านล่างให้ถูกต้องก็พิสูจน์ได้ว่าคุณไม่ใช่หุ่นยนต์แล้ว
ตำแหน่งที่อยู่ ให้คุณเลือกเป็น ประเทศ ไทย
หลังจากนั้นจะมีช่องสี่เหลี่ยมสีขาวให้คุณเลือกติกเครื่องหมายถูกคุณจะติกเฉพาะอันบน หรือ เลือก ติกอันล่างด้วยก็ได้ในส่วนนี้
หลังจากกรอกข้อมูลถูกต้องครบถ้วนทุกช่องแล้วให้คุณกดที่ สี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน ขั้นตอนถัดไป ได้ทันที
ลงทะเบียนในการสมัคร gmail
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสมัครใช้งาน Gmail ได้เรียบร้อย และ ขั้นตอนต่อไปนั่นคือการเลือกรูปใส่ประจำโปรไฟล์ Gmail ของคุณก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสมัคร Gmailง่ายๆ เพียงไม่กี่นาทีคุณก็มี Gmail เป็นของตัวเองแล้วคุณสามารถที่จะรับส่งจดหมายผ่านทาง Gmail เพื่อติดต่อกับเพื่อน หรือ ติดต่องานได้ อย่างสะดวกสบายสุดๆ ที่สำคัญ Gmail นั้นยังมีรูปแบบในการใช้งานที่ง่ายอีกด้วย

Google Play คืออะไร

Google Play คืออะไร


          สำหรับผู้ใช้งานแอนดรอยด์มือใหม่ ที่เพิ่มใช้งานสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เป็นครั้งแรกและอาจจะไม่คุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เช่น อยากจะโหลดแอพฯ โหลดเกม มาติดตั้งลงบนเครื่อง แต่ไม่รู้ว่าจะโหลดจากที่ไหน ซึ่งระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนจะมีบริการที่เรียกว่า App Store หรือศูนย์รวมแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ให้บริการสำหรับผู้ใช้งาน เช่น App Store ของแอปเปิลที่ให้บริการสำหรับผู้ใช้งาน iPhone, iPad และ iPod หรือ Marketplace ของโมโครซอฟท์ที่ให้บริการสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone เป็นต้น ส่วนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ก็มี App Store เป็นของตัวเองเช่น โดยมีชื่อว่า Google Play Store



ตัวอย่างหน้าเว็บ Google Play Store

          Google Play คือ เป็นบริการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน โดยทางกูเกิลได้รีแบรนด์จากบริการเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าง Android Market ทำการปรับโฉมใหม่ทำให้ Google Play กลายเป็นศูนย์รวมคอนเทนต์ต่าง ๆ ของกูเกิล เช่น เพลง แอพพลิเคชั่น หนังสือ เกมและอื่น ๆ ที่กูเกิลตั้งใจจะทำเป็นแหล่งดาวน์โหลดทุกอย่างที่กูเกิลมี โดยมีลักษณะคล้าย ๆ กับ Apple iTunes ของทางฝั่งแอปเปิลนั่นเอง โดย Google Play ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน คือ 

 1. Google Play Store ( ชื่อเดิม Android Market) เป็นตลาดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่มาจาก Android Market เราสามารถค้นหาแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และเลือกติดตั้งได้จาก Play Store บนมือถือและติดตั้งผ่านหน้าเว็บ ซึ่งขณะนี้มีแอพฯ และเกมให้เลือกดาวน์โหลดมากกว่า 450,000 แอพฯ


  2. Google Play Music (ชื่อเดิม Google Music) บริการด้านเพลงและมิวสิควีดีโอ ที่มีเพลงให้เลือกฟังและเลือกชมมากกว่า 20,000 เพลง  และสามารถกดแชร์เพลงไปให้เพื่อน ๆ ที่ใช้บริการ Google+ ได้อีกด้วย


  3. Google Play Books (Google Books) บริการเกี่ยวกับหนังสือและนิตยสารประเภท eBook ออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดที่ให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดมาอ่านได้ทั้งบนมือถือและแท็บเล็ต


  4. Google Play Movies (Google Movies) บริการเช่าภาพยนตร์ที่มีให้เลือกชมทั้งบนมือถือและหน้าเว็บ พร้อมกับจัดเก็บไว้บน Cloud หรือในเครื่องเพื่อเลือกชมภาพยนตร์ที่ต้องการได้ทุกที่ทุกเวลา และเร็ว ๆ นี้ จะมีหนังใหม่ในแบบ HD ให้เช่าอีกด้วย

สำหรับผู้ใช้งานแอนดรอยด์สามารถเข้าใช้งาน Google Play ได้จากแอพฯ บนสมาร์ทโฟนหรือใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ Google Play ก็ได้ โดยไปที่ https://play.google.com/store

Blogger คืออะไร

Blogger คืออะไร รวมบทความการใช้ Blogger อย่างละเอียด

   Blogger เป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่จะช่วยให้คุณมีพื้นที่สำหรับเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ที่คุณต้องการในลักษณะของ Webblog บริการเหล่านี้คุณสามารถใช้งานได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับคนที่อยากมีเว็บไซต์ส่วนตัว แต่ไม่อยากมีค่าใช้จ่าย blogger สามารถช่วยคุณได้ หากคุณต้องการใช้  blogger เพียงแค่สมัคร Gmail ก็สามารถสร้าง blog ได้อย่างมากมาย นอกจากนี้การสร้าง blog ด้วย blogger นั้นเชื่อมโยงพื้นที่เก็บรูปภาพเข้ากับ picasa ซึ่งเป็นบริการด้านภาพถ่าย ทำให้คุณมีพื้นที่เขียน blog และพื้นที่เก็บรูปภาพที่สัมพันธ์กัน สำหรับรูปแบบของชื่อจะมีลักษณะดังนี้ http://android-apps24.blogspot.com/ ซึ่งจะเห็นว่าไม่มี www และด้านหลังชื่อจะมี .blogspot.com ต่อท้ายblogger

          Webblog กับ Website ต่างกันอย่างไร
  1. Website ต้องมี Domain Name และ Hosting เป็นของตนเอง และเสียค่าใช้จ่าย ส่วน Webblog นั้นเราสามารถสมัครใช้บริการได้ฟรี แต่เราต้องใช้ Domain ของผู้ให้บริการ Webblog นั้น ๆ อยู่ในชื่อ domain ของเราด้วย เช่น http://ninetechno.blogspot.com  เป็นต้น
  2. Website คุณสามารถสร้างรูปแบบของเว็บไซต์ได้เองมีความยืดหยุ่น ส่วน Webblog นั้นมี Template ให้เลือก โดยการเขียน blog ก็จะมีโครงสร้างที่ตายตัวไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากนัก
  3. Website หากคุณต้องการเขียนเองต้องเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์หลายภาษาอยู่พอสมควร แต่ Webblog คุณเพียงแค่เรียนรู้การใช้งานเล็กน้อยคุณก็สามารถใช้งานได้

          
Webblog ทำอะไรได้บ้าง
  1. ทำเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว
  2. ไม่ค่อยเกิดปัญหาเรื่องเว็บล่ม 
  3. เขียนเรื่องราวต่าง ๆ และแบ่งปันให้กับผู้อื่น
  4. หารายได้กับ google เช่น การเขียนบทความ และนำโฆษณาของ google มาติดลง webblog ของตนเอง
  5. ทำธุรกิจที่เรียกว่า E-commerce ก็พอจะใช้ได้อยู่บ้างครับ 
   


Google Play Store คืออะไร

Google Play Store คืออะไร

Google Play Store (เดิมชื่อ Android Market) เป็นแหล่งรวมโปรแกรม หรือ Application ที่เราเรียกกันสั้นๆกันว่า Apps ของระบบปฏิบัติการณ์ Android ซึ่ง Smartphone หรือ Tablet ทุกเครื่อง ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ต้องมีครับ ซึ่งเพื่อนๆสามารถดาวน์โหลด Apps ที่มีมากมายมหาศาล ทั้งแบบฟรี และเสียเงิน มากกว่า 400,00 แอพ ได้โดยตรงจาก Smartphone หรือ Tablet ผ่าน Apps ที่ชื่อว่า Play Store หรือจะสั่งให้ดาวน์โหลดผ่าน Web Browser เช่น Internet Explorer, Firefox, Chrome, Safari และ Opera บนคอมพิวเตอร์ PC หรือว่า Mac ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยได้แบ่ง Apps ออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อทำให้ผู้ใช้ค้นหาได้ง่ายขึ้น
แต่ทว่า Smartphone หรือ Tablet ของบางยี่ห้อ เค้าจะมีแหล่งรวมโปรแกรมของตัวเอง ยี่ห้ออื่นเข้าไปใช้งานไม่ได้นะ เช่น Samsung Apps ของ Samsung และ Nearme Apps ของ OPPO จุดเด่นก็คือจะมี Apps ที่ปกติต้องเสียเงินซื้อ เอามาให้ลูกค้าตัวเองใช้ฟรี หรือมีสิทธิ์ใช้ก่อน ตัวอย่างเช่น Streaming Pro for Android ที่เปิดให้ลูกค้าของ Samsung ได้ใช้ก่อนใครเป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นก็เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Play Store เมื่อต้นเดือนมกราคม 56 ที่ผ่านมา
แต่ก่อนจะไปใช้งานบริการของทาง Google เพื่อนๆ จำเป็นต้องมีบัญชีผู้ใช้ของ Google กันซะก่อน ง่ายๆเลยไปสมัคร Gmail ที่นี่กันก่อนครับ มันมีประโยชน์มากมายทีเดียว แล้วผมจะค่อยๆอัพเดทให้อ่านกัน
1. การเข้า Play Store ผ่านเวบ ทำได้โดยไปที่ Google Play จากนั้นให้คลิกที่ Sign in (ด้านขวาบน) แล้วกรอกอีเมล์ และพาสเวิร์ด ที่ได้จากการสมัคร Gmail เข้าไปครับ
หน้าตาของ Play store เมื่อเข้าผ่าน Web Browser ครับ
หน้าตาของ Play store เมื่อเข้าผ่าน Web Browser ครับ
2. การเข้า Play Store ผ่าน Smartphone หรือ Tablet ให้คลิกที่ไอคอน  จากนั้นให้กรอกอีเมล์ และพาสเวิร์ด ที่ได้จากการสมัคร Gmail เข้าไปครับ แล้วคลิก Sign in
Play Store on mobile
หน้าตา Play Store บน Smartphone กับ Tablet
สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องมีบัญชีอีเมล์ของ Gmail ที่เป็นของตัวเอง เพื่อความปลอดภัย และเป็นส่วนตัว ไม่อย่างนั้นมือถือหรือแทบเล็ตราคาหลักหมื่น ที่จ่ายไป เพื่อนๆก็ใช้ได้แค่ 500 เท่านั้นแหละครับ แต่จะว่าไปก็คงคล้าย iPhone/iPad ที่คนใช้กันเกร่อ แต่จะมีซักกี่คนที่มี Apple ID ของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็เสียเงินให้ร้านมือถือลงแอพเต็มเครื่องไปหมด ใช้บ้าง ไม่ใช้บ้าง อยากอัพเดทก็ต้องเอาไปให้ร้าน…บางคนกลัวการผูกบัตรเครดิตกับบัญชี หรือไม่ก็กลัวนู่น นั่น นี่ จริงๆมันมีทางออก และง่ายกว่าที่คิด

Google AdSense คืออะไร

Google AdSense คือ บริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้น
โฆษณาที่ส่งมาจาก Google นั้น ๆ มีทั้งแบบ Text ,รูปภาพ และมีหลายขนาด ให้คุณได้เลือก นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรูปแบบสีได้ตามความต้องการ เพื่อความเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ
แล้วโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากไหน ??? หลายคงอาจสงสัย โฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทำ Google Adwords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โฆษณาสินค้าของตนเอง ผ่าน Search Engine ของ google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่นำ Google Adsense ไปติด เพื่อให้โฆษณาของตนเองอยู่ในตำแหน่งที่เด่น (เมื่อ Search ใน Google) กว่าข้อมูลอื่นที่ได้ผลลัพท์จากการค้นหา
รายได้จาก Google AdSense จะเกิดตอนไหน
จะมีอยู่ 2 กรณีครับคือ
• จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click)
เมื่อคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ คลิกที่โฆษณาของ Google AdSense ซึ่งแต่ละคลิกจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้ที่ทำ Google Adwords จ่ายให้ Google มากน้อยเท่าไร ถ้าจ่ายให้มากคุณก็จะได้มากด้วยเช่นกัน
• จ่ายเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression)
อันนี้จะจ่ายให้คุณเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม คุณจะไม่ได้รายได้จากการคลิก
นอกจากโฆษณาต่าง ๆ แล้ว การแนะนำ บริการต่าง ๆ ของ Gogle เมื่อมีคนใช้บริการ คุณก็จะมีรายได้จากการแนะนำนั้นด้วยซึ่งมีอยู่ดังต่อไปนี้

Google AdSense • ค่าตอบแทน $5 หากมีผู้ที่สมัคร Google Adsense ผ่าน Referral ของคุณและได้ $5 ภายใน 180 วัน
• ค่าตอบแทน $250 หากภายใน 180 วันถ้าผู้ที่สมัคร Google Adsense ผ่าน Referral ของคุณสามารถทำได้ $100 โดยผู้ที่สมัครต่อจากคุณต้องกรอก PIN ก่อนคุณถึงจะได้รับค่าตอบแทน
• ค่าตอบแทน $2,000 หากคุณมี 25 คนที่สมัครต่อจากคุณภายในระยะเวลา 180 วัน ที่สามารถทำได้มากกว่า $100 คุณจะได้รับโบนัสเพิ่มทันที (โบนัสจะได้รับ 1 ครั้ง/ปี)

Google AdWords • ค่าตอบแทน $5 หากมีผู้ที่สนในลงโฆษณากับ Google Adwords ผ่าน Referred ของคุณและชำระค่าบริการ $5
• ค่าตอบแทน $40 หากผู้ที่ลงโฆษณากับ Google Adwords ใช้บริการโฆษณาและชำระค่าบริการ $100 ภายใน 90 วัน
• ค่าตอบแทน $600 หากมีผู้สมัครผ่านคุณ 25 คนที่ลงโฆษณากับ Google Adwords โดยผู้ที่โฆษณาใครก็ตามที่ชำระค่าบริการมากกว่า $100 ภายใน 90 วัน คุณจะได้รับโบนัสเพิ่มทันที (โบนัสจะได้รับ 1 ครั้ง/ปี


Firefox คุณจะได้ 1$ เมื่อมีคนดาวน์โหลด Firefox จากเว็บของคุณ แต่ผู้ดาวน์โหลดนั้น ๆ ต้องไม่เคยติดตั้ง Firefox มาก่อน (แต่อย่างไรผมก็ได้แค่ 10 เซ็นต์ ทำไมเป็นแบบนั้น ???)

AdSense for searchคุณจะได้เงินมีคนมาใช้ Googel Search Box จากเว็บของคุณ แล้วคลิกโฆษณาผลลัพท์ที่ได้จากการ Search นั้น ๆ (เว็บไซต์ที่ อยู่ในตำแหน่งสปอนเซอร์ จะอยู่ด้านบน เป็นกรอบที่เด่นชัด) ค่าตอบแทนจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยุ่กับ Keyword ที่ผู้ใช้ค้นหา ซึ่งจะไม่เท่ากัน

Google Apps 
Google Apps คือระบบที่เหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งในระบบจะมีบริการต่างๆที่สมาชิกในกลุ่มใช้ได้ เช่น อีเมลล์ ระบบการการสนทนาผ่าน Instant Massaging ระบบปฎิทิน ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช่ร่วมกันได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างภายในสมาชิก ระบบทั้งหมด Google เป็นผู้ให้บริการ โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์และค่าซอฟท์แวร์แต่อย่างใด รวมถึงไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา

คุณจะได้รับ $5 จากที่มีผู้สนใจคลิกโฆษณา Google Apps ผ่านเว็บไซด์ของคุณและได้ทำการลงทะเบียนอย่างเสร็จสมบูณณ์ อย่างไรก็ตามหากผู้ที่สนใจไม่ได้สมัคร Google Apps ทันทีก็ตามระบบจะเก็บขอมูลการคลิกโฆษณา Google Apps จากเว็บไซด์ของคุณต่ออีกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ นั่นหมายถึงเขาอาจจะสมัครหลังจากนั้นก็ได้ แล้วคุณก็ยังได้รับรายได้อยู่

Google Checkout 
Google Checkout คือระบบการจับจ่ายซื้อสินค้าที่สะดวก ปลอดภัยและรวดเร็ว ด้วยระบบการรับชำระของ Google Checkout คุณสามารถทำรายการสั่งซื้อและจ่ายค่าสินค้าตลอดจนตรวจสอบรายการ การสั่งซื้อหรือการจ่ายค่าสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านหน้าเว็บไซด์

คุณจะได้รับ $1 ถ้ามีผู้ที่สมัครบัญชี Google Checkout ผ่านการแนะนำจากเว็บไซด์ของคุณ และได้ทำรายการสั่งซื้อสินค้าภายใน 90 วันและรายการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์จนการชำระค่าสินค้าเสร็จสิ้น โดยมูลค่าของสินค้าต้องมีมูลค่า $10 ขึ้นไป ก่อนที่รวมภาษีและค่าขนส่ง ภายใน 7 วัน

Google Street View คืออะไร

Google Street View คืออะไร ? ใช้กล้องอะไร ?.....

Google Maps อัพเดทเทคโนโลยีล้ำโลกกับ iTAllNews.com หลังจาก Google Maps เปิดตัว Street View ได้ไม่นาน ล่าสุดสามารถใช้งานได้ในประเทศไทยแล้ว เป็นเมืองใหญ่ ได้แก่กรุงเทพม ปริมณฑล ภูเก็ต เชียงใหม่ รับชมกันแบบ 360 องศา ทุกซอกทุกมุมกันเลย เป็นจุดเปลี่ยนของการดูแผนที่แบบเดิมๆ ที่เคยมีมา  สามารถใช้งานบน Computer และ  iPad, iPhone iOs ได้แล้ววันนี้กับ " Google Maps with Street View " + พร้อมวิธีการใช้งาน และเทคนิคการใช้งาน


Google Street View คืออะไร ? ใช้กล้องอะไร ?

    กูเกิ้ล สตรีท วิว นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Google Map โดยการใช้งานจะเป็นการเชื่อมต่อกัน เมื่อเราทำการ Zoom in แผนทีไปที่ ขนาด 20ม. ต่อ 100ฟุต (ใหญ่สุด) และเมื่อเรา Zoom in ต่อไปอีกก็จะพบกับ Mode Street View ที่เป็นภาพถ่ายแบบ 360 องศา มุมมอง 45 องศาจากทาอากาศ และสามารถดูสิ่งปลูกสร้าง 3 มิติได้ทั้งหมด การเก็บภาพนั้นเป็นการเก็บภาพจากกล้องถ่ายภาพพิเศษของ Google (ตามภาพบน) สำหรับประเทศไทยนั้นมีแผนจะทำให้ได้ทั่วประเทศโดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ถึงจะสามารถทำได้ทั่วประเทศไทย โดยเริ่มจากเมืองใหญ่ๆ อย่าง กรุงเทพ ปริมณฑล ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น


วิธีการใช้งาน Google Street View บน iOs iPad, iPhone
  STEP1: เปิด iPad, iPhone ขึ้นมาจากนั้นเข้าไปที่ Google Map


  STEP2: เค้นหาสถานที่ที่ต้องการ (ยังเป็นในกรุงเทพ และเมืองใหญ่) อย่างเช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นเลือกไปที่ Mark Point หากจุดไหนที่เราค้นหามี โลโก้สีส้มขึ้นมาจากภาพ แสดงว่าสามารถใช้งาน Google Street View ได้


  STEP3: เมื่อกดเข้าไปก็จะพบกับมุมมอง 360 องศา เราสามารถคอนโทรลกล้อง หมุนได้รอบตัว ทั้งยัง (1) เปลี่ยนมุมมองและจุดที่เรายืนไปตามถนนได้ โดยการกดที่ลูกศร และยัง (2) สามารถปรับมาเป็น Mode แผนที่ปกติได้อีกด้วย

       การใช้งาน Google Street View นับว่ามีประโยชน์มากๆ เลยละครับในการค้นหาสถานที่จริงไม่หลงกันอีกต่อไปแล้วละครับ สามารถใช้งานได้บน Computer และ iPad, iPhone เริ่มต้นที่ 30 ประเทศและคงจะไปทั่วโลกในไม่ช้านี้ครับ แต่ก็ใช่ว่าจะดีไปซะทุกอย่าง ใครทำอะไรแปลกๆ ไว้มีโอกาสมีภาพติดไปใน ภาพหลุด Google Street View ได้ด้วย

cr. http://www.kalasin3.go.th/view.php?article_id=2284

Google earth คืออะไร

Google earth คืออะไร

google earth คืออะไร

กูเกิลเอิร์ธ (Google Earth) เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับการดูภาพถ่ายทางอากาศ พร้อมค้นหาเส้นทาง ผังเมือง แผนที่การคมนาคม ซึ่งโปรแกรมนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบงานด้านภูมิสารสนเทศ GIS (Geographic Information System)
กูเกิลเอิร์ธ ได้ใช้ข้อมูลจาก ภาพถ่ายทางอากาศจากหลายที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับภาพถ่ายดาวเทียม
สำหรับภาพตึกจำลอง 3 มิติ ที่มีลักษณะเป็นสีเทาในกูเกิลเอิร์ธ ได้รับสิทธิ์ส่วนหนึ่งมาจากซอฟต์แวร์ของแซนบอร์น (Sanborn) ในชื่อ ซิตีเซ็ทส์ (CitySets) โดยรูปตึก 3 มิติ ในรูปแบบที่สมบูรณ์ สามารถเรียกดูได้ผ่านทางซิตีเซ็ทส์
การทำงานของ Google Earth จะเป็นการทำงานแบบ Client-Server โดยส่วนที่ใช้ควบคุมและแสดงผล เรียกว่าโปรแกรม Google Earth Client ซึ่งการใช้งานต้องต่อเชื่อมกับระบบอินเทอร์เน็ตด้วย เพื่อจะได้ดึงภาพที่อยู่บน Server ของกูเกิลมาแสดงได้
โปรแกรม Google Earth ไม่ได้เก็บไฟล์ภาพแผนที่ไว้ในโปรแกรม เพียงแต่มันจะทำหน้าที่อ่านค่าพิกัด ละติจูด ลองจิจูด ที่ผู้ใช้ต้องการดูภาพ แล้วโปรแกรมจะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ เพื่อทำการดาวน์โหลดไฟล์ภาพแผนที่ขึ้นมาแสดงอย่างทันที นั้นคือ ถ้าคุณต้องการใช้โปรแกรม Google Earth ดูภาพถ่ายดาวเทียม เราเองต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน้ตด้วย
สำหรับตำแหน่งของสถานที่ที่ปรากฏในโปรแกรมนั้นจะมีเพียงหลักๆ เท่านั้น เช่นชื่อประเทศ ชื่อเมือง จังหวัด รัฐ สำหรับรายละเอียดสถานที่นั้น จะเน้นที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

โปรแกรม Google Earth
การดูภาพถ่ายดาวเทียมจะต้องใช้โปรแกรม Google Earth โดยการเข้าไปดาวน์โหลดมาติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก่อน  สำหรับลักษณะการใช้งานของโปรแกรม ถือว่าถูกออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายและไม่ซับซ้อนมาก ซึ่งส่วนต่างๆมีดังนี้
1.เมนูคำสั่ง : เป็นเมนูที่เกี่ยวกับคำสั่งทั้งหมดของโปรแกรม
2.แท็บ Fly To , Local Search และ Direction : ส่วนนี้จะใช้ในการค้นหาสถานที่ โดยระบุเงื่อนไข เมื่อคลิกแต่ละแท็บ
3.Places : ส่วนนี้จะแสดงเกี่ยวกับไฟลืแผนที่ที่ได้เปิดขึ้น โดยนำเสนอในลักษณะโครงสร้างแบบลำดับชั้น คุณสามารถคลิกเครื่องหมายถูกเพื่อเลือกดูได้
4.Layers : คุณสมบัติพื้นฐานของโปรแกรมจัดการแผนที่ที่ต้องมีตัวหนึ่งก็คือ เลเยอร์ คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ใช้เลือกจุดที่สนใจดูเท่านั้น แสดงออกมา
5.แผงควบคุม : ส่วนนี้ทำหน้าที่ควบคุมการดูแผนที่ในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซูมเข้า ซูมออก ปรับมุมก้มเงย เงื่อนซ้ายขวา หรือหมุนภาพ
6.แผนที่ : ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุด โดยจะแสดงแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม

cr. http://www.rangforever.com/news.php?id=11